โฆษกสำนักนายก อธิบายสาเหตุ ประยุทธ์ แนะนำให้ใช้ ทรานซิสเตอร์สู้น้ำท่วม เป็นเพราะวิทยุเข้าถึงประชาชนทุกวัย กลุ่ม Gen Z ฟังเพียบ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้พูดถึงกระแสที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมแนะนำให้ประชาชนใช้เครื่อง วิทยุทรานซิสเตอร์สื่อสารและใช้ทรานซิสเตอร์สู้น้ำท่วมกรณีเกิดไฟดับ หรือ ระบบล่มนั้น
นาย อนุชา อธิบายถึงเรื่องทรานซิสเตอร์ว่านายกให้ความสำคัญกับการสื่อสารผ่านทางวิทยุ เพราะเข้าถึงประชาชนได้ดี ทั้งยังมีผลสำรวจยืนยันว่าเป็นที่นิยมของคนทุกวัย
ตามข่าวมีการอ้างถึงผลสำรวจพฤติกรรมการรับฟังรายการวิทยุทั่วประเทศ ของกสทช.และสถาบันอาณาบริเวณศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งสำรวจจากคนฟัง 3,655 คน พบว่า 68.9% ยังนิยมฟังวิทยุจากเครื่องรับวิทยุในบ้าน วิทยุพกพา หรือวิทยุในรถยนต์ และยังอ้างถึงผลสำรวจพฤติกรรมการฟังวัทยุในปี 2022 ที่พบว่าคนทุกวัยยังฟังวิทยุอยู่ อย่างกลุ่มGen Z อายุ 12-19 ปี พบว่ามีการฟังวิทยุมากถึง 8 แสนคน
ซึ่งตัวเลขข้อมูลดังกล่าวนี้สามารถยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ช่องทางการสื่อสารผ่านวิทยุเป็นช่องทางที่ยังได้รับความนิยมและเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มวัย หลังการแนะนำใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ของนายกฯ ถูกนำเสนออกไป ก็เกิดเสียงวิจารณืตามาทันทีว่า วิธีการดังกล่าวนั้นล้าสมัยไปหรือไม่
ขณะที่วันนี้ (4 ต.ค.65) แม่ค้าในตลาด กล่าวหลังทราบข่าวว่า ตนเองไม่ได้ฟังข่าวสารผ่านวิทยุ มานานกว่า 10 ปี แล้ว ใช้โทรศัพท์ในการอ่านข่าว ดูข่าว ติดตามข่าวสาร วิทยุซื้อมาก็เสียบฟังเพลง ไม่เคยเข้าไปเปิดโปรแกรมฟัง FM หรือ AM เลยสักครั้งเดียว เพราะไม่มีใครมีเวลาว่างถึงขนาดไปนั่งฟังวิทยุตลอด 24 ชั่วโมงแน่นอน
ด้าน ร้านานขายวิทยุทรานซิสเตอร์ในตัวเมืองชัยนาทซึ่งผู้สื่อข่าวลงไปสอบถามเรื่องของจำนวนยอดขายวิทยุที่นายกแนะนำให้ใช้ตอนระบบล่ม โดยเจ้าของร้านก็ให้ข้อมูลว่า ยอดขายนั้นไม่ดี ขายได้เฉพาะชาวสวน และผู้สูงอายุ เดือนหนึ่งจะขายได้ 1-2 เครื่อง ราคาอยู่ที่ 590 – 690 บาท ใช้ได้ทั้งถ่านและเสียบปลั๊ก
จบลงด้วยดี ศัลยา นักเขียนบทบุพเพ ยกมือไหว้ อมรัตน์ กรณีคดีหมิ่นประมาท อมรัตน์เผยไม่ติดใจ จึงยอมถอนฟ้อง หลังได้นั่งคุยกันแล้ว นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) โพสต์ข้อความและภาพลงเฟซบุ๊ก โดยเป็นภาพของนาง ศัลยา สุขะนิวัตติ์ นักเขียนบทละครโทรทัศน์ชื่อดัง เช่น บุพเพสันนิวาส คู่กรรม, นางทาส, สายโลหิต, ดอกส้มสีทอง ยกมือไหว้นาง อมรัตน์ ซึ่งทาง ส.ส. พรรคก้าวไกลก็รับไหว้
พร้อมข้อความกำกับที่ระบุว่า “ห้องพิจารณาคดี 910 คุณศัลยา สุขขะนิวัตติ์ ได้ยกมือไหว้และกล่าวคำขอโทษต่อหน้าศาล ที่ได้โพสต์ข้อความด่าทอหมิ่นประมาทดิฉันอย่างร้ายแรง คุณศัลยากล่าวว่าสำนึกผิดอย่างจริงใจ และยินดีจะลงข้อความขอโทษในนสพ. 3 ฉบับติดต่อกัน 3 วัน (ไทยรัฐ เดลินิวส์ มติชน) รวมทั้งเขียนขอโทษในเฟสบุคของคุณศัลยาเองต่อเนื่องกัน 5 วัน
‘ประยุทธ์’ แนะ ปชช. ขอนแก่น ‘เชื่อรัฐบาลแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น’
ประยุทธ์ แนะประชาชนระหว่างลงพื้นที่ดูสถานการณ์น้ำท่วม ขอนแก่น ขอให้สามัคคีกันไว้ ย้ำ เชื่อรัฐบาลแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่วันนี้ลงพื้นที่จังหวัด ขอนแก่น และ อุบลราชธานี เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วมของทั้งสองจังหวัด โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรีหลังจากที่ได้ตำแหน่งคืน
พล.อ.ประยุทธ์ ได้ได้ฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำ และสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.ขอนแก่น โดย นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นที่รายงานสถานการณ์น้ำท่วมขอนแก่นปัจจุบัน
หลังจากฟังบรรยายเรื่องขอนแก่นน้ำท่วมเสร็จ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปที่จุดสถานีสูบน้ำพลังงานไฟฟ้า บึงหนองโคตร เทศบาลตำบลบ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น โดยจุดนี้เกิดน้ำท่วมตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นพื้นที่รอยต่อพื้นที่เศรษฐกิจเมืองขอนแก่นและมีหมู่บ้านจัดสรร บ้านเรือนประประชาชน ได้รับผลกระทบจำนวนมาก จากฝนที่ตกหนักจนน้ำจากบึงหนองโคตรระบายไม่ทันเอ่อล้นเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชนหลายพันหลังคาเรือน
เบื้องต้น นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเป็ด แจ้งว่า ทางเทศบาลตำบลบ้านเป็ดได้ระดมเครื่องสูบน้ำจาก สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 4 อบจ.ขอนแก่น และเครื่องสูบน้ำระยะไกลของศูนย์ ปภ.เขต 6 เร่งพร่องน้ำออกจากบึงหนองโคตรให้ได้มากที่สุด เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกมาอย่างต่อเนื่อง
ในระหว่างการลงพื้นที่นั้นก็มีชาวบ้านออกมาให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งทางนายกฯก็ได้บอกประชาชนรักสามัคคีกัน เชื่อฟังคำแนะนำและการปฏิบัติ ที่สำคัญเชื่อมั่นในรัฐบาลแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น
ดิฉันไม่ติดใจ เพราะเมื่อได้มีโอกาสพูดคุยประเด็นสังคมและการเมืองกัน เห็นว่าคุณศัลยาได้ลดอคติ และมีมุมมองใหม่ ๆ ที่ต่างไปจากเดิมบ้างพอสมควร ดิฉันจึงตัดสินใจลงชื่อถอนฟ้องค่าเสียหายทางแพ่งจากคุณศัลยา ที่แต่เดิมตั้งใจว่าหากชนะคดีจะนำเงินนี้มอบให้รพ.เพื่อซื้อเครื่องมือแพทย์”
ขณะที่ทางนาง ศัลยา ก็ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กแสดงความเสียใจและขอโทษ นางอมรัตน์ พร้อมระบุว่าการขอโทษนี้เกิดขึ้นอย่างจริงใจและเต็มใจ
แนะนำ : รีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้า | รีวิวอาหารญี่ปุ่น| รีวิวที่เที่ยว | ดาราเอวี